เมื่อบ้านกลายเป็นสถานที่ทำงาน ด้วยสถานการณ์โลกระบาดทั่วโลกทำให้คนออกมาทำงานนอกบ้านไม่ได้ ต้องทำงานที่บ้านการโดยอาศัยเทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร แล้วนอกจากโต๊ะทำงานที่เราสมควรมีแบบดี ๆ ไว้ที่บ้านแล้ว ยังมีอะไรอีกควรทำให้เหมาะสมรองรับการอยู่บ้าน
– ครัวที่ประณีตขึ้น เมื่อเหตุการณ์บีบคั้นให้พวกเราจำเป็นต้องอยู่บ้านตลอด
แล้วก็จะต้องทำกับข้าวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเหตุว่าไม่วางใจของกินที่ทำโดยคนอื่น ๆ ในอนาคตก็เลยมีการคาดหมายว่าคนบางครั้งอาจจะอยากได้ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นของห้องครัวด้วยการออกแบบครัว ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บของอย่างมีความเรียบร้อย ของใช้แบบพิเศษ ฯลฯ
– ตกแต่งด้วยอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
ในอนาคตก็มีการคาดคะเนถึงการตกแต่งด้านในต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องสุขา ครัว อื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยอุปกรณ์ที่มีผิวเรียบไม่ตะปุ่มตะป่ำ รวมทั้งทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายยกตัวอย่างเช่นกระเบื้อง เซรามิกฉาบ
รวมทั้งอุปกรณ์ที่คุ้มครองป้องกันแบคทีเรีย นอกเหนือจากนี้ยังรวมถึงการจัดวางเครื่องเรือนต่าง ๆ ด้วย ที่จะต้องชำระล้างได้อย่างทั่วถึง ดังนี้ก็เพื่อปกป้องการแพร่ขยายของเชื้อโรค
– เพิ่มพื้นที่สร้างความเพลิดเพลินในบ้าน
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ผู้คนจำนวนมากมีความคิดแบบเดียวกัน ว่าบ้านเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดรวมทั้งคาดว่าจะมีแนวคิดนี้ไปอีกนานหากแม้ในอนาคตที่เหตุการณ์เชื้อไวรัสดียิ่งขึ้น
และจากนั้นก็ตาม ทำให้บ้านเปลี่ยนเป็นสถานที่ที่พวกเราไว้วางใจเยอะที่สุด เมื่อมีการร่วมตัวทำกิจกรรมร่วมกับคนภายในครอบครัว หรือเพื่อนพ้องอีกรอบ
ซึ่งก็ได้มีการเดาว่าบ้านจะแปลงเป็นที่นิยมต่อการพบปะและก็ทำกิจกรรมคบหาสมาคมมากยิ่งกว่าสถานที่นอกบ้าน อย่างเช่นบาร์บีคิวในสนามหญ้าหลังบ้าน ฯลฯ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีแมวไว้คลายเหงาอยู่เป็นเพื่อนและอยากเอาใจแมวของเรา ก็สามารถหาซื้อต้นไม้ที่แมวกินได้มาไว้ที่บ้านหรือคอนโดได้ เช่น
– ต้นอ่อนข้าวสาลี ช่วยในหัวข้อการย่อย แล้วก็การขับถ่ายอย่างดีเยี่ยม
เพราะมีเส้นใยสูง โดยจะไปกำจัดก้อนขนที่ค้างอยู่ตามไส้ ปรับสมดุล รักษาแผล แล้วก็ปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมส่วนที่ซึกหลอ หาซื้อได้ตามร้านค้าสัตว์เลี้ยงทั่ว ๆ ไป โดยจะมีขายอีกทั้งแบบสำเร็จรูป รวมทั้งแบบเม็ดมาปลูกเอง
ปลูกได้ไม่ยากเพียงหว่านลงดินรวมทั้งลดน้ำ ควรจะปลูกเอาไว้ในตำแหน่งที่มีแดดลำไร ได้แก่ ขอบหน้าต่าง ด้านใน 4-5 ต้นอ่อนก็ขึ้นแล้ว ถ้าหากปลดปล่อยไว้นานถึง 7 วันลำต้นจะแข็งเหลือเกิน ไม่สมควรให้น้องรับประทาน ด้วยเหตุนี้ควรจะเล็มในส่วนที่แข็งออกบ่อย ๆ เพื่อแตกต้นอ่อนใหม่อีกรอบ
สนับสนุนเรื่องราวโดย เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ